เพราะเราเชื่อว่าผู้ชายคือไฟ ผู้หญิงคือถ่าน ผู้ชายเกิดมาพร้อมกับกับสิ่งที่มีพลังอำนาจ ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับความอ่อนน้อม และเพราะเหตุนี้เสียงจึงเหมาะกับผู้ที่สามารถเป็นผู้นำได้นั่นคือผู้ชาย ส่วนผู้หญิงก็คงเกิดมาพร้อมกับความสงบเงียบที่พร้อมจะตาม หากไม่มีคนตาม ก็หามีหัวหน้าไม่ หากไม่มีคำว่าผู้นำ เราจะมีคำว่าผู้ตามหรือ?
ความเชื่อของของคู่กันนี้ ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของความเป็นจริง เรื่องที่เป็นจริงมีบ่อเกิดอยู่สองแห่งคือ งานการสร้างของธรรมชาติและการสร้างของมนุษย์ เรื่องที่ธรรมชาติสร้างมามักจะเป็นสิ่งคู่กันเสมอๆ แต่สิ่งสองสิ่งนี้อาจปรากฎอยู่แยกกันคนละที่ก็ได้ หรืออาจรวมอยู่ในรูปรูปหนึ่งก็ได้ แต่มีผลให้กันและกันเสมอ...ความรักและความเกลียดแยกกันอยู่ต่อเมื่อใจเรารักหมดใจและเกลียดถึงกระดุกดำ ไม่ฉะนั้นความรักและความเกลียดจะปรากฎอยู่ในที่ที่เดียวกัน
แต่ความสนใจของข้าพเจ้าในวันนี้ เพียงแค่ต้องการดูเฉพาะสิ่งสองสิ่งนี้ที่ขัดกัน แต่มีความลงตัวอยู่ในตัวของมัน นั่นคือ การทะเลาะเบาะแว้งของสามีภรรยา แม้ผู้เป็นสามีจะทุบ จะตี หรือจะเตะ แต่ภรรยาทำได้แค่รับรู้ความเจ็บปวด ความเสียใจ และฝึกความอดทนของร่างกายและจิตใจ ดูเหมือนคำต่อว่าไม่มีหยุดของสามีช่วยกลบกลืนเสียงของภรรยาได้เป็นอย่างดี ทำให้ข้าพเจ้าพึงคิดในใจอย่างไม่พอใจว่า "ผู้เป็นเจ้าของเราได้ให้ผู้ชายพกสิบปากมาด่าว่าภรรยาของตัวเองหรือ? แล้วทำไมไม่โยนทิ้งสักอันหนึ่งให้ภรรยา เพื่อมาถามหาความยุติธรรมเสียบ้างล่ะ!!" แม้จะหาความถูกต้องไม่ได้ แต่การเงียบของภรรยาจะช่วยให้ผู้ชายก็จะหยุดเอง แต่หากภรรยามีคำโต้เถียงสวนทางกลับไปบ้าง แน่นอนว่าแม่ยายต้องบอกว่าได้ลูกสะไภ้ไม่ดี เรื่องราวจะไม่จบเป็นแน่ เหตุนี้หญิงบ้านหญิงเรือนหลายๆคนที่มีคุณสมบัติของสะไภ้ดีในแบบฉบับของมาตรฐานม้ง แม่ศรีเรือนม้งตัวจริงจึงไม่หาความยุติธรรมให้ตัวเองเลย และจะไม่นำเรื่องให้คนนอกช่วยรับรู้ทั้งนั้น แม้จะลำบากใจมากเพียงใด
ด้วยเหตุนี้ทำให้ข้าพเจ้าตั้งแต่รู้เรื่องมาจนรักเรียนต้องพลอยแอบซ่อนมีด ซ่อนเคียว และซ่อนขวานให้ไกลจากมือของพวกผู้ชายรอบตัวในยามที่รู้ว่ามีปัญหา การเอาอุปกรณ์พวกนี้ออกไปพักงานนอกบ้านบ้างจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่เด็กคนหนึ่งจะพอรับมือช่วยเหลือได้สถาณการณ์ ข้าพเจ้าเห็นเหตุการณ์เหล่านี้หลายต่อหลายคู่ทั้งที่ใกล้ตาและไกลตัว จนเป็นที่น่าจดใส่ใจสำหรับข้าพเจ้ามาตลอดว่า "การแต่งงานได้ขโมยอะไรบางอย่างของผู้หญิง และได้ลดสิทธิของผู้หญิงไป" คุณแม่หลายๆสอนเสมอว่า "แม้้เราจะถูก แต่อย่าไปพูดเลย ปล่อยให้เป็นไปตามที่ผู้ชายทำ แล้วเรื่องจะดีเอง หากเราไปต่อล้อต่อคำอีก เดี๋ยวเรื่องจะยิ่งเละและยิ่งยาว"
ข้าพเจ้าควรที่จะเรียกคุณแม่ที่ยอมทนยอมอยู่อย่างนี้ว่าอย่างไรดี ข้าพเจ้าควรที่จะยึดถือพวกเขาเป็นแม่แบบหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆแล้วแต่คุณทราบไหมว่า คุณพ่อและคุณแม่ของครอบครัวหนึ่งในกลุ่มนั้นได้เป็นคุณพ่อและคุณแม่ดีเด่นในภายหลังแล้ว
ข้าพเจ้าจึงคิดว่าสงสัยฟ้าลิขิตให้เราแต่ละครอบครัวขัดกันก่อน ขัดเพื่อให้ได้เพชรเม็ดงาม
อย่างไรก็ตามแม่เหตุการณ์จะผ่านมาแล้วนานนับปี แต่ภาพต่างๆเหล่านั้นยังไม่จางหายจากข้าพเจ้า เหมือนกับความบอบช้ำของจิตใจของคุณแม่เหล่านั้นในวันนี้ที่ยังรักษาไม่หายแม้จะกลายเป็นคุณยายหรือคุณป้าไปหมดแล้ว ข้าพเจ้าจึงได้แต่เจ็บลึกๆไปพร้อมๆกับคุณแม่เหล่านั้นจนถึงวันนี้ จึงได้เขียนบทความเรื่องนี้สอบถามความก้าวหน้าในชีวิตคู่ของม้งเรา หากในวันนี้การมีชีวิตคู่้ของม้งเราได้เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น ข้าพเจ้าคงต้องกลับมาเปลี่ยนใจ เพื่อรอรับคู่ขวัญของข้าพเจ้าแล้วล่ะ
2 comments:
ผมเองก็ประสบพบเห็นเรื่องราวเหล่านี้ในครอบครัวตัวเองเหมือนกัน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้าย หากเลือกได้คงไม่มีใครอย่างพบเจอ .. ไม่ว่าคุณจะเป็นหญิง หรือชาย
แม้จะเลวร้ายเีพียงใด เมื่อมองเทียบกับชาติอื่นแล้ว ม้งเรายังไม่เคยได้ยินเรื่องราวสามีฆ่าภรรยา หรือภรรยาฆ่าสามีเลย (ซึ่งอาจจะมี)
ตามข่าวหน้าหนึ่งนั้น การฆาตกรรมกว่าครึ่งเป็นเรื่องชู้สาว และครึ่งหนึ่งในการฆาตกรรมชู้สาว เกิดขึ้นระหว่างสามี กับภรรยา .. ผมแค่อยากชี้ให้เห็นว่า แม้สังคมม้งจะมีเรื่องเลวร้ายอยู่บ้าง แต่สังคมภายนอกอาจยิ่งเลวร้ายเสียกว่า
แค่อยากให้คุณเบาใจ ว่านี่ไม่ใช่เพราะชะตากรรมของคนที่เกิดเป็นม้ง แต่เป็นชะตากรรมของตัวบุคคล
ผมตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้อยู่เหมือนกัน .. แต่ขอดองไว้ก่อน
ค่ะ...ดิฉันเห็นด้วยกับความเป็นจริงที่คุณได้ชี้ขึ้นมาค่ะ
ว่าเมื่อเทีบยกับสังคมภายนอก ปัญหาที่เรามีอยู่เป้นปัญหาพริกขี้หนู (แต่ก็แก้ไม่ตก)และเป็นธรรมดาที่แก้ไม่ตก
ใช่ ไม่ใช่ฉะเพาะเราเป็นม้งแล้วเรามีปัญหานี้ แต่เราเป็นคนเหมือนคนทั่วๆไป เราจึงมีปัญหาเหมือนคนทั่วๆไปทั่วที่มีเรื่องของกรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง
ค่ะ..อยากให้คุณเขียนขึ้นมาด้วย....อย่าดองนานนะ...ของดองนานๆเป็นยังไง คุณคงทราบอยู่ ...อยากจะอ่านความคิด ความเห็นคุณบ้าง...ขอบคุณที่แลกเปลี่ยนความเห็นกัน....
Post a Comment