เคยถามตัวเองว่าเกิดมาทำไม ?
เกิดมาแล้วได้ชีวิต...แล้วถามอีกว่าชีวิตคือะไร?
ชีวิตคือการมีลมหายใจ...มีลมหายใจแล้วยังไม่พอเหรอ?
เพราะชีวิตไม่ได้เพียงแค่ต้องการลมหายใจ มันต้องการอะไรที่มากกว่าลมหายใจ ฉันและเธอทุกคนถึงต้องเดินขึ้นเดินลงวันแล้ววันเล่าตราบจนถึงวันนั้นวันหนึ่งที่ชีวิตหมดไป เรื่องราวของชีวิตถึงหมดกัน
ฉันแบ่งช่วงชีวิตออกคราวๆเป็นสามชั่วเองในชีวิตหนึ่งๆ ตอนนี้เดินทางมาได้แล้วหนึ่งส่วนสามของอายุไขของคน แต่ว่าจะรู้ไหมเล่าว่าเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ ชั่วโมงหน้า พรุ่งนี้ เดือนถัดไป ปีหน้า หรือเมื่อไหร่ก็ไม่มีใครรู้
เช้านี้ที่นี่ประมาณเที่ยงวันที่ไทย ฉันคุยกับแม่เหมือนเคย แต่แม่บอกว่าแม่ไม่มีอะไรจะให้ เราคิดในใจ " เอ้ะ แม่ต้องให้เราหรือ หรือว่าเราต้องให้แม่" แม่พูดเหมือนรู้สึกผิดที่เราต่างอยู่ไกลกัน ส่วนฉันก็ไม่รู้ว่าจะว่าอย่างไรดี ก็เลยได้แต่เอ่ยอ้างตามทษฏีที่คุณครูสอนมา เหมือนเคยๆคือน้ำตาแม่ไหลเป็นเรื่องปกติสำหรับฉันไปเสียแล้ว
แม่ร้องเพราะลูกไม่รักดีก็มีอยู่สองครั้ง แม่ร้องเพราะความคิดถึงนี้แหละเป็นตัวการทำให้ฉันร้องไห้ตามๆกันเสมอ เคยได้ยินอาจารย์บรรณารักษืที่สะเมิงบอกว่า ใครทำให้แม่ร้องไห้นั้นบาปอย่างมหาศาล ลองมาคิดๆอยู่แล้ว...ฉันก็เคยลองมาเกือบทุกอย่างเหมือนกัน ทั้งดีและไม่ดี...ที่แน่ๆบาปหรือบุญที่ได้เกิดมา...
วันนี้แม่ไม่อยู่กับฉันตรงนี้ วันเวลาอย่างนี้อยากบอกว่าคิดถึงแม่ที่สุดเลย....ฝากความรัก ความห่วงใยให้ฟากฟ้าพาพัดไปโอบกอดแม่ของฉันด้วยเทอญ ส่วนพ่อให้น้องกอดละกันน้อ
ดึกๆเล่นกันมาไม่ทันจะนั่งติดเก้าอี้ ญี่ปุ่นรูปหล่อก็เดินมาซาโยนาระ แล้วบอกปนๆกับภาษาชินจังว่าพรุ่งนี้จะไปเล่นอีก 9pm เด็กญี่ปุ่นพวกนั้นแตกต่างจากพวกเรานะ พวกเค้าก็วัยเดียวๆกันกับเรา แต่ลักษณะการแต่งกายของพวกเขาดูกุ๊กกิ๊กๆ ทำให้พวกเค้าน่ารักกว่าพวกเราจนได้(กิกิ) มานั่งพรางคิดไปว่า เอ้ะ ป่านนี้แล้วหรือ อืม..ยังไม่ถึงเลย...สักครู่ เสียงเสียงหนึ่งก็โต้ตอบมาว่า "ก็เกิดที่ไทยนิ" คุ้นเคยกับนี้ได้ไม่นาน เราพลางคิดในใจว่า" ไอ้หมอนี้ช่างคิดจังเลยแฮะ" อืม...คงเป็นเรื่องที่แปลกมากสำหรับเราที่มีโอกาสและวันเวลาอย่างนี้ ปกติแล้วก็เฉยๆกับสิ่งนี้ แต่ดูเหมือนเมื่อผู้คนรอบตัวต่างให้ความสำคัญ เราเลยต้องเป็นจิ้งจกเปลี่ยนสีแค่นั้นเอง อย่างไรก็ตามมีความสุขที่ได้ยินเสียงแรกเป็นเสียงนักดนตรีมาช่วยคลอเคลียกับบรรยากาศดีๆของความเงียบสงบในค่ำคืนนี้ เป็นเนื้อหาเป็นเรื่องราวที่เคยได้ยินมาก่อนแล้วหลายๆปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่เคยได้ยินในรอบปีนี้ เลยรู้สึกปลื้มในเสียงทุ่มๆ ลูกคอสั่นหน่อยๆของเธอ และแล้วก็เหลือไว้แต่ความเงียบให้ตัวฉันคิดต่อเหมือนเช่นเคย
ไม่นานนักเสียงประตูก็มาสะกั้นความคิดฉัน เคาะเป็นจังหวะๆ ทำให้ฉันรู้เลยว่าคือผู้ใด๋ มาสร้างสีสันในค่ำคืนนี้ได้อีกครึ่งชั่วโมง พอพวกเค้ากลับ ฉันก็มาต่อบันทึกนี้ และตอนนี้เพิ่งจะมาดูเวลาก็ปาเข้าไปแล้ว 22...1.38pm เรียบร้อยแล้ว...เฮ้ย!!ตะกี้ยังบอกกะสาวJapaneseว่า 21เลย. อีกหน่อยก็ 33,44,55,66 แล้วจะมีโอกาสได้ตัวเลขเหมือนกันอย่างนี้กี่ตัวก็ไม่รู้เลย...
ขอลืมความทุกข์ จำความสุขสักวันนะ..ขอบพระคุณท่านมากเลยนะคะสำหรับอะไรที่ยิ่งใหญ่อย่างนี้
ต่อไปนี้ลูกโตเป็นสาวนิดหน่อยอีกแล้ว..แต่เสียดายแม่ชราลงอีกนิดหน่อย...ไม่นานวันจะกลับมาอยู่ด้วยแล้ว
โลกนี้กว้างใหญ่ แต่แล้วทำไมฉันอยู่แต่ในโลกเล็กๆแคบๆของฉันอ่ะจ้า??
ได้กุญแจ่เพิ่มอีกดอกหนึ่งแล้วนิ...ก็เดินทางต่อไปสู่คว่มฝันของตัวเองนะ...และเป็นแรงใจให้ทุกคนเสมอ
No comments:
Post a Comment