มีขบวนรถไฟสองขบวนในแต่ละชั่วโมง ขบวนหนึ่งเป็นขบวนไป และอีกขบวนหนึ่งเป็นขบวนมา ทั้งสองขบวนนี้มีฉันเป็นผู้โดยสารคนหนึ่งในหลายพันคน ที่นั่งมีให้พอนั่งได้สามคนและอีกครึ่งก้น ระหว่างที่นั่งมีที่ยืนให้อีกคนจำนวนสามคนเบียดกัน ช่องผ่านไปมามีคนนับไม่ถ้วนยืนกีดขวางเส้นทางการค้าขายของพ่อค้าขายของกินบนรถไฟ
เส้นทางค่อนข้างยาวไกล...จนฉันได้นั่งสลับกัยได้ยืนเหมือนคนอินเดียทั่วไป หมายความว่า ตอนแรกขึ้นไปไม่มีที่นั่ง แต่พอสักพักคนตรงหน้าเราปวดเมื่อย ก็ให้เรานั่งจองที่ให้แกต่อ พอแกให้เมื่อย เราก็หายอยากนั่ง...เลยสลับๆกันอย่างนี้จนถึงปลายทาง
หนังสือพิมพ์ก็เช่นกัน เจ้าของอ่านเสร็จ..อีกคนหนึ่งต่อ แล้วก็ต่อเรื่อยๆ จนหนังสือพิมพ์บางเล่มหล่นอยู่บนพื้นเป็นขยะไปโดยปริยาย
การเดินทางครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่บนรถไฟในพื้นที่(local train)แต่เป็นครั้งแรกที่เดินทางคนเดียวไปอ.โกลยานิ(Kalyani District) ที่ที่พี่ชายม้งแซ่ย่างคนหนึ่ง และพี่น้องจากประเทศในโซนเอเชียกำลังศึกษาอยู่
3 comments:
เจ้านกผกผินบินไกล.....
เจ้าบินถึงถิ่นดินใด.....ห่างไกล...
ห่างไกล...ห่างแสนห่างไกล....
เจ้าเห็นขอบฟ้านั้นใหม......
เจ้าเห็นแผ่นดินนั้นใหม......
สุดขอบฟ้านั้น...........มีอะไร...
ที่สุดของแผ่นดิน..ยังเป็นหน้าผาใช่ใหม..
เจ้านกโผบินได้ไม่ไกล
บินไม่ถึงถิ่นดินที่ใฝ่ฝัน
แต่เห็นขอบฟ้านั้นเหมือนกัน
อยากรู้จังว่ามีอะไรอยู่หลังขอบฟ้านั้น
หน้าผาเหมือนที่สุดชองแผ่นดินหรือเปล่า?
คุณเขียนได้ประทับใจมากเลยนะ
มาช่วยกันเขียนม่ะ?
น้องเองก็เขียนได้ดีมากครับ...
พี่มีความสุขที่ได้อ่านเรื่องราวของน้องครับ...
ศรัทธาที่ต้องไม่ลืมคือศรัทธาในตัวเอง......
vorteva1@gmail.com...
Post a Comment