Thursday, June 18, 2009

ชีวิตติดห่วง




งุนงงกับชีวิตตัวเองเหมือนกัน
อยู่ๆก็เจอสิ่งดีๆ
อยู่ๆสิ่งไม่ดีก็เกิดขึ้นอย่างกระทันหัน

หากมองอย่างไม่คิดอะไรเลย ก็คงจะคิดว่าตัวเองเป็นคนโชคไม่ไดีหากเจอสิ่งไม่ดี
ตัวเองเป็นคนโชชคดีหากเจอเรื่องที่ดี



แต่อย่างไรก็ตามทั้งสิ่งดีและไม่ดี มีจุดจบสิ้นของมันเสมอ
เมื่อมันถึงจุดที่ดีที่สุด ความสุขก็จะค่อยๆถอยลง
เมื่อเราเจอสิ่งที่ไม่ดีมากที่สุดมาแล้ว ก็คงจะคลายๆลงบ้างหลังจากนั้น

สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องของการเกี่ยวโยงของมนุษย์และธรรมชาติ
เพราะธรรมชาติกำหนดชีวิตของแต่ละคนไม่เหมือนกัน การเดินทางเลยต่างกัน

ฉันเชื่ออย่างยิ่งว่า การพบเจอผู้คนแต่ละคนในแต่ละแห่งเป็นเรื่องของห่วงโซ่ชีวิตที่ถูกผูกกัน....
นับวันหากแก้ห่วงโซ่นี้เรีบยร้อย ธรรมชาติของแต่ละคนก็จะตามแก้ห่วงอื่นๆอีกต่อไป...
เราทุกคนเพียงทำการอย่างนี้ไปวันๆ แค่นั้นเอง...หากเป็นเด็กก็คงเป็นการแก้ห่วงที่เกี่ยวกับเพื่อนๆของตัวเองเป็นส่วนใหญ่
หากเป็นหนุ่มสาวก็ตามแก้ห่วงของการค้นหาใครสักคนหนึ่ง...
ผู้ใหญ่ก็คงอยู่ในเรื่องของผู้ร่วมงาน และร่วมชีวิต....

สัปดาห์ก่อนได้มีโอกาสไปเยือนสถานที่แห่งอนุสรณ์แห่งความรักที่ไม่สมหวัง ทาชมาฮาล ยิ่งสะเทือนใจตัวเองว่าวันนี้เราเป็นอย่างนี้จริงๆด้วย ถึงมาถึงสถานที่ที่เป็นอย่างนี้ สถานที่อาจจะสวยงานมากจนชวนให้เราคิดหวนคำนึงถึงใครบางคนที่น่าจะมารู้ มาเห็นกับเรา อยากจะบอกว่า...แม้เราจะไม่มีคนรักเหมือนคนอื่น แต่เราก็ยังมีความรักให้ใครต่อใคร การมาเห็นบางสิ่งบางอย่างที่แสดงถึงความรักที่ยิ่งใหญ่มากอย่างทาชมาฮาล มันชวนให้เราคิดถึงอนุภาพแห่งความรักที่ไม่สิ้นสุด...มองย้อนดูตัวเองกับความรัก แล้วเจอเพียงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพ่อแม่และพี่น้องเท่านั้นที่สัมผัสได้ด้วยความจริงใจ ฉันเลยเพียงกดสายไปที่บ้าน แล้วบอกทุกคนๆว่าวันนี้ฉันมาทาชมาฮาลคนเดียว แต่จะพาความรักกลับไปให้ทุกคน...ห่วงโซ่รัก เป็นพลังงานพื้นฐานในการขับเคลื่อนชีวิตของฉัน

ตอนนี้เราเป็นสิ่งมีชีวิต มีลมหายใจเป็นสมบัติอันล้ำค่าของชีวิตแล้ว เราคงไม่ต้องรอแต่จะแก้ห่วงเท่านั้น แต่เราคงต้องเตรียมตัวรอรับห่วงต่อไป นั่นคือ การยอมรับห่วงลมหายใจที่รู้ทั้งรู้ว่ามันจะต้องหายไปสักวัน.....ช่วงเวลาที่เหลือน้อยนิด ไม่รู้กี่นาที กี่วัน กี่เดือน และกี่ปี แต่วันนี้และพรุ่งนี้ฉันจะใช้งานชีวิตให้คุ้มค่าขึ้นนะคะ...เราเกิดมาเพื่อเป็นนายของชีวิตเรานิ ...ใช่ม่า?...เราไม่เป็นนายให้เรา แล้วใครจะมาเป็นเจ้าของของเรา....สู้และเดินทางต่อไปอย่างมีความสุข...เส้น ทางที่เดินขรุขระ แต่เดิน ค่อยๆเดินทีละก้าว ก้าวละนิด สักวันหนึ่งคุณจะเป็นผู้ที่ทำความฝันสำเร็จเอง....วันนี้กลับมาแล้ว กลับมารับกำลังใจจากฟากฟ้า กำลังใจจากสายฝนอีกครั้งเหมือนครั้งก่อน....

...มีความสุขสวัสดิ์นะคะทุกๆคน...รักษาเนื้อรักษาตัวเป็นคนมีสุขภาพจิตสุขภาพกายที่ดีต่อไปนะ

ด้วยมิตรภาพ

6 comments:

วอยติวา1 said...

ผมเป็นม้งและตายไปก็ไม่เคยเสียใจที่เป็นม้ง.....
ยังถามตนเองอยู่เสมอ..ว่าตนเองได้ทำดีที่สุดหรือยัง...
ยังถามตนเองอยู่เสมอ....
วันนี้ที่บ้านอาจมีความขัดแย้ง......
วันนี้ในชุมชนอาจมีการแข่งขัน.....
วันนี้เราอาจไม่มีเหลือซึ่งความรัก.....
วันนี้เราอาจไม่ไว้ใจซึ่งกันและกัน.....
ไม่รู้ซิ..ผมกลับรักม้งและรักมากขึ้น...
แล้วคุณละ....ฟังเพลงม้งครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่.........

rainrai said...

วันนี้ ขณะนี้เองที่ฉันกำลังฟังในขณะที่อ่านความคิดของคุณ...

ขอบคุณที่รักม้งมากขึ้นและมากขึ้น

Anonymous said...

เข้ามาด้วยความคิดถึงน้องสาวคนนี้
..

พี่เอก

Anonymous said...

พี่เอกคนไหนน้อ...โลกนี้มีหนึ่งเดียวนั่นคือ"เอก"..แต่เสียดายจังเลย...ฉันไม่รู้จักพี่เอก คริๆ

Anonymous said...

Nice photo. It must have been an amazing trip. Tswvchoj

rainrai said...

ํำYes, it was amazing,but at the same time it was quite scary,b'coz I went there alone!!

Dear brother, Tswvchoj,I'm sorry to say that i lost yr email ID due to I failed to open my account. So i have another email Id which i can give to u through here i.e. :urai.2530@hotmail.com

After all we can keep in touch either from this site or through mailing.

Thanks for visiting.

I have nothing new to upload.

My Friends' Blogs

India and I

  • There are alots of things which waiting for us to discover. All knowledge is not around us,but inside. It is depended upon our ability to realise and pick it up. The apple falls from the tree,and if Newton failed to learn from it,then the law of gravitation would have not been discovered!!!
  • India is the country of contrast. You often see someting beyound your expectation.Yet,and I found that there is a tool similar to Hmong's ones expecially the stick used for balancing the two baskets for carrying water. I observed that their's one is like ours only. In Hmong language we can read it phonetically as " / dΛ ŋ/ ". This attracts me to look forward for the connection.
  • India has also have a interesting story "Why corps in the filed do not come home themselves like in the past?" I have heard this story when I was a child. Thus when I came across this Indian legend ,it reminds me of the Hmong version. If you are interested you can check it out form my page in Thai text,otherwise you can surf it. This story creates another couriosity in me. I want to find out if we had been to India before we reached in China. Because the ICE AGE or the Peleolithic Age or The Earliest traces of human existance was in India.
  • India is where we Hmongs think that there are also Hmongs live in. But I have experienced that there is not Hmong Indian. Yet,there is a gruop of people who call themselves as "Mizo"(with the similarity of the Hmong's names given by the Han, i.e. Miao zu,Meo or even Mizo ) .But as far as I have learnt form my Mizo friends in college,our language is competely different to one another.Moreover, our dress also is different. However there are many Hmong researchers suggested me that there are Hmongs living in India,and yes, there are Hmongs living here, but only living for studying.
  • I was in debt to India. She educates,guides and teaches me how to be a great survior.
  • เป็นกำลังใจให้ทุกคนๆเดินออกมาพร้อมความสำเร็จนะ
  • ใครเรียนอยู่อินเดียบ้าง..ขอมือหน่อย