Saturday, November 22, 2008

คำถามด้วยคุณเอกรัตน์"คริสต์" เปลี่ยนวัฒนธรรมมม้งไปยังไงบ้าง


ตอบคำถามด้วยคุณเอกรัตน์"คริสต์" เปลี่ยนวัฒนธรรมมม้งไปยังไงบ้าง

"ในช่วงหลังมีม้งหลายคนที่ได้เปลี่ยนไปนับถือศาสนาคริสต์ บางคนก็ไม่ให้ความสำคัญกับสือเน้ง บางคนก็ไม่สืบต่อธรรมเนียมปฎิบัติแบบเก่าก่อน แต่บางคนถึงแม้ว่าจะถือคริสต์แต่ก็ยังคง ปฏิบัติตามธรรมเนียมของคนม้ง ทั้งการแต่งงาน ฯลฯ...อยากรู้ว่าการถือคริสต์ได้เปลี่ยนวัฒนธรรมม้งไปยังไงบ้างในความคิดของท่าน"

เราในฐานะผู้ตอบที่ต้องคิดหนักหน่อยเลย...เพราะชื่อติดในกระทู้คุณเอกรัตน์แล้วรู้สึกเป็นงาน

ที่ไม่ตอบไม่ได้แล้วเลยขอตอบตามความคิดเห็นดังนี้นะ

ศาสนาคืออะไร....???

วัฒนธรรมคืออะไร...???

ธรรมเนียมที่คุณเอกรัตน์เอ่ยถึงคืออะไร??

วัฒนธรรม และประเพณีมีส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นบนพื้นฐานของศาสนาและความเชื่อ และอีกส่วนหนึ่งเกิดขึ้นจากการ

ยอมรับของผู้คนกันเองนั่นเรียกว่าธรรมเนียม.....เราน่าจะแยกประเพณีและวัฒนธรรม และธรรมเนียมออกจากันนะ... ประเพณีอยู่ของประเพณี วัฒนธรรมอยู่ของวัฒนธรรม และธรรมเนียมก็แยกด้วย ...เราเอามาใส่เป็นรวมมิตรถ้วยเดียวกันไม่ได้...เพราะจะเข้าใจยาก ธรรมเนียมคล้ายๆกับว่าเป็นกฎระเบียบที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามนะ....ใครไม่ปฎิบัติตามสังคมก็จะว่าให้....
ไม่ใช่ว่าใครไม่ปฎิบัติตามแล้วพระเจ้าจะว่าให้...ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาเลยนะ เช่น....ค่าสินสอดทองหมั้นพันดอลล่า หากคุณไม่ให้ตามนั้น...ใครจะว่าให้คุณ....พระเจ้าเหรอ
? หรือคนอื่นที่รู้ว่าคุณให้ไม่ครบวัฒนธรรมโดยที่เข้าใจกันแล้ว คือ สิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองโดยไม่ขึ้นอยู่กับกาลเวลา แต่ขึ้นอยู่กับกิริยาที่มีต่อตัวบุคคล...การพูด การกินและการแต่งกาย พูดง่ายๆเลยก็คืออะไรก็ทำตามที่เราทำเป็นกิริยาท่า

ทางปกติที่เราทำเป็นประจำทุกวัน ไม่ได้มีเวลามากำหนดว่า..ถึงแล้ว เราต้องแสดงวัฒนธรรมออกมา .....หมดวันแล้ว...เราต้องพับเก็บไว้ก่อน....รอวันวัฒนธรรมแล้วค่อยแสดงออกมาอีก...อย่างนั้นไม่ใช่ฉะนั้นวัฒนธรรมเป็น
อะไรที่เรามองเห็นได้ในชีวิตประจำวันเราอยู่แล้ว ที่มองเห็นเพราะวัฒนธรรมควบคุมพฤติกรรมของเราจากที่กล่าวมาด้านบน...

ลองสังเกตดูนะว่าม้งที่นับถือศาสนาคริตส์มีการแต่งกาย การพูด หรือกิริยามารยาทอื่นๆที่ต่างจากจากม้งที่นับถือ"ศาสนาม้ง" ไหม???(ดิฉันขอเรียกว่า ศานาม้งนะ เพราะเป็นของดั้งเดิมของม้ง)หากต่างกัน แสดงว่า วัฒนธรรมนั้นมีผลต่อการเปลี่ยนแปลง....แต่ความเป็นจริงแล้วไม่นิ ม้งที่นับถือศาสนาคริสต์ก็ยังเหมือนเดิม ยังแต่งกายด้วยชุดสวยๆเวลามีงานสำคัญต่างๆนิ ยังพูดภาษาม้ง ยังคงกินกับข้าวม้ง ยังคงเคารพผู้เฒ่าผู้แก่อยู่เหมือนเคย และหญิงสาวยังคงไม่ลืมความอ่อนน้อมถ่อมตัวนิ ฉะนั้นศาสนาไม่ทำใหวัฒนธรรมม้งเปลี่ยนหรือเสื่อมหรอกนะ เพราะที่ต่างกันนั้นเป็นเพียงคุณค่าทางจิตใจของแต่ละคน...ที่วางใจ พอใจ และอยากให้สิ่งนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจ...เรื่องของศาสนาคริสต์เป็นเหมือนเป็น

ตัวผู้ช่วยหนึ่งที่ถูกม้งเรากลุ่มหนึ่งเลือก จึงที่ทำให้จิตใจของเราม้งบางส่วนนี้เปลี่ยนไป ...แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า ศาสนาม้งไม่ดี ถึงเปลี่ยนศาสนา....หากเป็นอย่างนี้ก็คงสอบตกวิชาม้งแล้วนะส่วนศาสนาคริตส์นั้นต้องมีอะไร

ที่ต้องคิดหาเกี่ยวข้องโดยตรงต่อประเพณีม้ง ประเพณี....เป็นเรื่องราวที่ต้องคิดกับอะไรๆที่เราไม่ค่อยเห็นบ่อยๆในแต่ละวัน จะเห็นได้ก็แค่ตอนที่ถึงฤดูกาลของมัน หรือถึงเวลาอันเป็นมงคลที่ได้กำหนดไว้....ที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ปีใหม่ กินข้าวใหม่ พิธีการแต่งงาน อันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมทางศาสนาของม้ง ม้งที่ถือคริสต์ก็คงจะหลีกเลี่ยงที่จะเรียกบรรพบุรุษของตนมาทานข้าวใหม่ แต่ก็ยังมีการกินข้าวใหม่กัน เวลาเรียกขวัญก็คงมีไม่ปฎิบัติการ แต่ก็ยังมีการไปโบสถ์ไปรับพรจากพระเจ้าในวันนั้น (เห็นที่บ้านเค้าทำกันนะ )ปีใหม่ก็ยังร่วมเล่นกันในกลุ่มม้งที่เชื่อตามความเชื่อของม้ง โดยไม่ได้คิดว่าเป็นการรับพรจากบรรพบุรุษ และผู้อยู่เบื่องบนหรือเป็นการมปีติยินดีกับพิธีหนึ่งที่ต้อนรับผู้อยู่เบื้องบนมาเล่นสนุกสนานกับเรา....

ทุกคนต่างเพียงคิดว่าเป็นไปเพื่อการพบปะ และสันสรรค์กันไปเพื่อความบันเทิงเท่านั้น ทั้งนี้ดิฉันเห็นว่า ประเพณีของม้งอยู่บนพื้นฐานทั้งของสองสิ่งคือ

๑.ความเชื่อม้ง

๒.และธรรมเนียมม้ง

ม้งที่เป็นคริสต์จึงยังก็ยังถือปฏิบัติการให้เห็นกันบ้างตามความชอบในส่วนที่เป็นธรรมเนียม และวัฒนธรรม แล้วขณะเดียวกันหลีกเลี่ยงการประกอบพิธีหรือความเชื่อของม้ง

*ประเพณีของม้ยู่บนพื้นฐานของความเชื่อของม้งอย่างไรหล่ะ?

ลองสังเกตไหมว่า....ทำไมฝ่ายชายเวลายกขบวนมาสู่ขอฝ่ายหญิงต้องหยุดกลางทางแล้วทานข้าว....ขากลับเช่นกัน ทำไมต้องห่อข้าวให้ทานกลางทานอีกด้วย....ม้งที่เป็นเม่งก้งทำไมต้องถือร่ม? หากม้งที่นับถือคริสต์อย่างเต็มตัวก็คงจะหลีกเลี่ยงการปฏิบัตินี้ เพราะการทำอย่างนี้เพราะมีความเชื่อของม้งเรื่องนี้อยู่....แต่ทุกวันนี้สงสัยม้งไม่รู้จักตัวเอง

พอจึงถือปฏิบัติด้วย แบบครึ่งๆกลางๆ ขั้นตอนที่รู้ก็หลีกเลี่ยงไป ที่ไม่รู้ก็ทำไปโดยไม่รู้ตัว

** ประเพณีของม้งอยู่บนพื้นฐานของธรรมเนียมยังไงหล่ะ

การสู่ขออย่างถุกต้องตามประเพณี นอกจากจากเป็นการให้ความเคารพผู้ให้กำเนิดแล้วแถมยังเป็นที่ยอมรับของสังคม และอีกทั้งยังคงจะเป็นเกียรติอย่างยิ่งต่อทั้งชายและหญิง ธรรมเนียมนี้จึงยอมรับโดยคนม้งๆที่อยากเริ่มต้นชีวิตคู่ดีไงกันหล่ะ เหตุนี้การแต่งงานของม้งๆเราทั้งคริสต์และม้งศาสนาม้งจึงมีให้เห็นกันไงหล่ะจึงคิดว่า...

ศาสนาตริสต์ไม่ได้มีผลอะไรต่อการเปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรม ธรรมเนียม และศาสนาม้งให้เสื่อมเสียหรือเปลี่ยนแปลงเลย แต่จะส่งผลโดยตรงต่อการเปลี่ยนแปลงของประเพณีของม้งบางอย่าง....

ซึ่งประเพณีบางอย่างอาจถูกรวบรัดให้สั้นลงเพราะจะมี
ีการตัดส่วนที่เกี่ยวข้องกับพิธีกรรมหรือความเชื่อออก แล้วถือเอาเฉพาะที่เป็นๆและเห็นๆกันอยู่จริงๆเท่านั้น ทำไมถึงคิดว่าไม่มีผลกระทบอะไรต่อวัฒนธรรมธรรมเนียม และศาสนา
?พวกเค้าไม่ได้นำวัฒนธรรมอะไรมาใส่กับวัฒนธรรมม้งนิ เพราะวัฒนธรรม ธรรมเนียมไม่ได้เกี่ยวข้องกับศาสนาของม้ง แต่ประเพณีต่างหากที่เกี่ยวศาสนา...เค้านับถือตริสต์ก็ไม่ได้มาทำลายความเชื่อของม้งนิ...

เพียงเขาไม่เชื่อแค่นั้นแล้วหาที่พึ่งพาทางใจใหม่ แค่นั้นเอง....และหากคนไม่เชื่อเยอะๆแน่นอนว่าศาสนาม้งคงหายไปแน่ แต่แน่นอนว่าความเชื่อของม้งยังคงให้อะไรดีๆกับกลุ่มม้งกลุ่มหนึ่งที่ได้รับประโยชน์อยู่ และยังมองว่าเป็นที่พึ่งพาได้อยู่ จึงไม่มีวันหายเช่นกันมีแต่ประเพณีที่เกี่ยวข้อง ประเพณีที่มีในส่วนของพิธีกรรมต่างๆของความเชื่อม้งเขาก็เพียงแค่หลีกเลี่ยงถ้าพวกเค้ารู้ว่าเกี่ยว ส่วนในส่วนที่พวกเขายังไม่รู้ว่าโยงใยกับศาสนาม้ง พวกเขาก็ยังคงปฏิบัติกันอยู่โดยไม่รู้ตัว .....หากไม่ใช่อย่างนี้แล้ว ม้งที่นับถือศาสนาคริสต์คงไม่มีการไปเล่นปีใหม่ที่พร้อมๆกับปีใหม่ของม้งที่นับถือศาสนาของม้งตามที่ดิฉันเรียกแล้ว
(เหตุผลอธิบายไปแล้วข้างตน)พวกเขาคงหันไปเล่นปีใหม่ม้งในช่วงปีใหม่สากลไปเสียแล้ว และอีกอย่างพวกเค้าคงไม่รับการแนะนำและช่วยเหลือจากพ่อม้งแม่ม้งยาสมุนไพรในสมุนไพรบางอย่าง อย่างไรก็ตามม้งที่นับถือศาสนาคริสต์ก็ยังคงรักวัฒนธรรม ประเพณี และธรรมเนียมของม้งอยู่ แต่ตัดความคิด ความเชื่อ และพิธีกรรมบางอย่างออกในส่วนที่เกี่ยวข้องกับศาสนาม้งเท่านั้น เช่น การจ๊าย(ไม่รู้จะเขียนเป็นภาษาไทยอย่างไร ถึงจะเข้าใจ เขียนม้งไม่เป็น) การเส่นไว้บรรพบุรุษ การบ่นเจ้าที่เจ้าทาง อัวเน้ง และการดูจากหมอดู อันประเพณีนี้คนที่นับถือคริสต์ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เนื่องจากเป็นทั้งที่เกิดมาจากความจริงที่เห็นๆ และความเชื่อๆของม้ง....พวกเขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงเท่าที่จะเป็นไปได้ให้มากที่สุดเท่านั้นความต่างของม้งคริสต์และม้งศาสนา
ม้งจึงต่างกันเพียงแค่ในเรื่องของคุณค่าทางจิตใจเท่านั้น คงที่วางใจในพระคริสต์ก็คงต้องหาพระองค์เป็นที่พึ่ง สำหรับม้งที่ยังคงนับถือของม้ง ก็ยังคงปฏิบัติกันต่อไป เพราะได้รับประโยชน์จาการนับถือ และแน่นอนว่าความเชื่อนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงตราบใดที่ยังคงสามารถช่วยเป็นยาเยี่ยวใจให้คนม้งเราอยู่ ฉะนั้นจึงแน่นอนว่าศาสนาคริสต์ไม่ได้เข้ามามีส่วนที่ทำให้วัฒนธรรมม้งธรรมเนียมม้ง และศาสนาของม้งเสื่อมเสียอะไรหรือเปลี่ยนไปแต่ประเพณีบางอย่างจะถูกหลีกเลี่ยง หรือรวบรัดไป อันนี้อาจนำมาซึงการมีอีกรูปแบบหนึ่งของประเพณีประเพณีหนึ่งของม้งคริสต์ได้ แต่จะไม่ส่งผลต่อประเพณีดั้งเดิมของม้งม้งอย่างแน่นอน....ฉันคิดว่า...ม้งที่เปลี่ยนไปนับถือคริสต์หรือศาสนาอื่นๆที่เปลี่ยนไปเพราะ

๑.ม้งไม่ศึกษาเรื่องของศาสนาม้ง เลยมองไม่เห็น

จุดแท้จริงของการเชื่อสิ่งเหล่านั้น

๒.ผลจากข้อหนึ่งข้างบนนำเรามาอย่างง่ายสู่ข้อนี้ คือการเปลี่ยนศาสนาโดยได้รับอิทธิผล ม้งกลุ่มนี้จึงอาจมีการประกอบพิธีดั้งเดิมของม้งบ้างตามที่ชอบ

๓.คนที่มีใจรักอยากเปลี่ยนจริงๆ

๔.ตามความนิยม....คนส่วนใหญ่รุ่นใหม่ขอนับถือศาสาคริตส์เพราะเท่ห์ดีก็มีทมไป ส่วนม้งนี้ไม่ต้องคิดมาก ไปทิศทางไหนก็ได้หมด ตามยุคสมัย

แต่ปัจจัยเหล่านี้ไม่ทำให้วัฒนธรรม ธรรมเนียม และศาสนาเราเปลี่ยนหรอกนะ(ยกเว้ณประเพณีบางอย่างบางขั้นตอนที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อม้ง)..... แม้ศาสนาม้งจะไม่ได้รับผลเสียอะไรจากศาสนาคริตส์ แต่แนานอนว่าหากเรายังไม่รู้ถึงคุณค่าของกระบวนการคิดตามความเชื่อของม้ง....รับรองว่าไม่ใช่แค่ศาสนาคริสต์ที่คนม้งจะไปนับถือ แต่ศาสนาอื่นๆด้วย....คนนับถือของม้งเราก็จะน้อยลงแน่ๆในอนาคตตามที่เห็นเท่าที่เห็นๆกันอยู่ทุกวันนี้.....
หากคุณตัดสินใจหนีไปนับถือศาสนาอื่นเพราะคุณไม่ชอบอะไรของความเชื่อม้งที่คิดว่าอยู่ในโลกความงมงาย นั่นคุณก็คิดผิดเสียแล้วคุณจะคิดถูกก็ต่อเมื่อ คุณรู้สึกว่าพระเยซู พระพุทธเจ้า หรือพระอัลเลาะสามารถเป็นที่พึงของคุณได้ แล้วคุณจึงหันไปนับถือ นั่นถือว่าคุณได้ตัดสินใจถูก โดยไม่รังเกียจ หรือวัดค่าของอีกศาสนาหนึ่งน้อยลงไป ฉะนั้นจึงขออยากให้พี่น้องม้งเรา อย่าไปนับถือศาสนาอื่นเพราะคิดว่าศานาม้งไม่ดี งมงายจึงหนีหันไปนับถืบศาสาอื่นแทน ขอให้เราศึกษาศาสนาเราก่อน เรายังไม่ทันศึกษาศาสนาเราเลย เราก็ไปศึกษาของคนอื่นแล้ว....ศาสนาม้งจึงอาจกำลังค่อยๆๆๆๆๆหายไปในพริบตาจนลิบหรี่มากแล้วตอนนี้หากไม่มีการศึกษา
ให้รู้แก่นที่แท้จริง ทุกอย่างจะถูกดูงมงาย จนสุดท้ายคุณคงพลาดที่จะมองเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้ในความเชื่อของม้งได้....จริงๆๆแล้ว...ทุกความเชื่อที่ม้งเชื่อ มีกระบวนการคิดในเชิงปรัชญา หรือในเชิงแห่งความจริง....ที่ทำหน้าที่เหมือนเป็นคำสอนของเรา ซึ่งเหมือนศาสนาอื่นๆที่มีคำสอน แต่น่าเสียใดม้งเราไม่มีโอกาสในการศึกษาตรงนี้ และไม่ได้สนใจที่จะพยายามเรียนรู้คำสอนที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเชื่อของม้งเหล่านี้ เราส่วนใหญ่สนใจแต่การจะทำอย่างไรให้ทันใจ ทันทีให้ชีวิตดูดีขึ้น โดยลืมถึงคามสำคัญ เนื้อหาของคำสอนที่ถูกซ่อนอยู่ในพิธีกรรมไป จึงทำให้เราพอไม่สบายบ้าบก็ต้องยาทันใจ ต้องอัวเน้ง ฮู่พลี ฯลฯ เยี่ยวยารักษาชีวิตเพียงค่ำขึ้น แล้วลืมที่จะมองเอาหาคำสอนเพื่อนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน เราได้แต่หวังผลอย่างทันใจ สนใจเพียงแค่วิธีการปฏิบัติ หมออัวเน้งทุกวันนี้ล้วนรู้จักการประกอบพิธีกรรมต่างๆ แต่สักกี่คนเล่าจะรู้คำสอนที่ซ่อนอยู่ไม่.....เราในฐานะคนดู ไม่ได้มีความรู้อะไรเลยจึงมองความเชื่อเหล่านั้นเป็นสิ่งงมงายไป....ลองคิด วิเคราะห์ดูดีๆนะ....แล้วคุณจะพบระบบกระบวนการคิดที่น่าคิดมากเลย...จนคุณแอบชื่นชมคนม้งแต่ก่อนว่าคิดได้อย่างไรมีด้วยหรือ แบบว่า
It’s amazing!

ดิฉันว่าคงต้องมีอะไรซ่อนอยู่ในการปะกอบพิธีแต่ละพิธี และความเชือในแต่ละความเชื่อ....อย่าเชื่อถ้าคุณเชื่อแล้วไม่ได้รับอะไรแต่จงเชื่อถ้าคุณได้รับอะไรจาการเชื่อดิฉันมีบัตรประจำตัว-
ประชาชนนะที่เขียนว่าเป็นพุทธแต่จริงแล้วไม่ใช่พุทธ จะว่าไปคือไม่มีศาสนาอะไรที่ติดอยู่ในใจนะบัตรที่ได้เกิดจาการได้มาจากการบอกของพ่อแม่ตอนเกิดอยู่บ้านพ่อแม่ทำพิธีกรรมอะไรก็ยินดีรับ ยินดีช่วย และพร้อมศึกษา สิบสองปีเคยเรียนโรงเรียนพุทธก็เข้าวัดเข้าวา ตอนนี้เรียนอยู่วิทยาลัยของมิสชั่นนารี ก็เข้าโบสถ์ เชื่อ และรับรู้ถึงพระองค์ แม้เดินผ่านวัดฮินดู ก็ยังต้องก้มหัวลงนิดหนึ่งแล้วขอพรจากท่านสำหรับวันนี้.....การกระทำอย่างนี้ของดิฉันไม่ได้มีผลกระทบอะไร

ต่อศาสนาทั้งหมดที่กล่าวมานี้....เรานับถือโน้น นับถือนี่แล้วทำให้ศาสนาเขาเสื่อมเหรอ? ไม่ใช่.........ทั้งหมดคือขึ้นอยู่กับความสบายใจของดิฉันเอง...ม้งที่นับถือศาสนาคริสต์ก็คงเช่นกัน เขานับถือ แต่เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเสียหายให้กับศาสนาม้ง วัฒนธรรมม้ง ประเพณีม้ง และธรรมเนียม หรือแม้กระทั่งศาสนาคริสต์ที่เขานับถืออยู่ อืมมาไกลและมาเยอะมาก....จนไม่รู้ว่าได้ตอบคำถามของคุณเอกรัตน์หรือยัง

หากใครไม่เห็นด้วย หรือมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติม

ก็อย่าลืมทิ้งความคิดไว้ให้ดิฉันด้วย ทำตัวเองให้อยู่ในกระทู้นี้เหมือนคุณอยู่บ้านของคุณนะ แล้วเรามาพูดกันนะ

ขอบคุณมากนะ

ปล. ภาษาม้งเขียนไม่เป็นนะ เลยขอแบบคำม้งเวอร์ชั่นไทยละกัน





No comments:

My Friends' Blogs

India and I

  • There are alots of things which waiting for us to discover. All knowledge is not around us,but inside. It is depended upon our ability to realise and pick it up. The apple falls from the tree,and if Newton failed to learn from it,then the law of gravitation would have not been discovered!!!
  • India is the country of contrast. You often see someting beyound your expectation.Yet,and I found that there is a tool similar to Hmong's ones expecially the stick used for balancing the two baskets for carrying water. I observed that their's one is like ours only. In Hmong language we can read it phonetically as " / dΛ ŋ/ ". This attracts me to look forward for the connection.
  • India has also have a interesting story "Why corps in the filed do not come home themselves like in the past?" I have heard this story when I was a child. Thus when I came across this Indian legend ,it reminds me of the Hmong version. If you are interested you can check it out form my page in Thai text,otherwise you can surf it. This story creates another couriosity in me. I want to find out if we had been to India before we reached in China. Because the ICE AGE or the Peleolithic Age or The Earliest traces of human existance was in India.
  • India is where we Hmongs think that there are also Hmongs live in. But I have experienced that there is not Hmong Indian. Yet,there is a gruop of people who call themselves as "Mizo"(with the similarity of the Hmong's names given by the Han, i.e. Miao zu,Meo or even Mizo ) .But as far as I have learnt form my Mizo friends in college,our language is competely different to one another.Moreover, our dress also is different. However there are many Hmong researchers suggested me that there are Hmongs living in India,and yes, there are Hmongs living here, but only living for studying.
  • I was in debt to India. She educates,guides and teaches me how to be a great survior.
  • เป็นกำลังใจให้ทุกคนๆเดินออกมาพร้อมความสำเร็จนะ
  • ใครเรียนอยู่อินเดียบ้าง..ขอมือหน่อย