Thursday, December 25, 2008

มารู้จักเรา...เกร็ดความรู้ม้ง


มารู้จักเรา...เกร็ดความรู้ม้ง

วันนี้ขอพาพวกเราที่ไม่รู้จักม้งมารู้จักตัวเองเสียหน่อยนะคะ


๑.ทำไมกับข้าววม้งถึงจืด?

สมัยก่อนม้งปลูกข้าวและทอผ้าม่างไปแลกเกลือกับจีน มีบ้างที่เอาไปแลกโลหะเงินมา แต่ด้วยคุณภาพโหละของจีนที่ไม่ค่อยดีนักดี ม้งจึงแลกเฉพาะเหลือกับปลามาเท่านั้น ม้งไม่ได้ผลิตเกลือหรือผลิตไม่ได้ในสมัยก่อน อาหารของม้งจริงๆหรือดั่งเดิมจึงแต่ไหนแต่ไรถึงมีรสชาติที่จืดไงเล่า...จริงๆแล้วก็อร่อยดีนะ..ว่ามั้ยเอ่ย

๒.ทำไมก้งเม้งก็งต้องถือร่มคันหนึ่งเวลาไปสู่ขอหญิงในพิธีการต่งงาน

ร่มถือว่าเป็นสัญาลักษณ์ของการแต่งงานของคู่บ่าวสาวนับแต่การมาตัดสินคดีของเจ้าฟ้าแดนมังกร( แปลเป็นไทยเองนะ น่าจะเป็นนัยๆนี้)หรือเราเรียกกันในภาษาม้งว่าZaj Zeg Zaj Lag เขาผู้นี้เป็นผู้ที่ปกครองและดูแลทุกข์สุขของผู้คนตามความเชื่อของม้ง ในเมื่อเกิดปัญหาการไม่เข้าใจของผู้คนจนร้อนถึงหูของเจ้าองค์นี้ ครั้งหนึ่งที่ท่านจึงได้ถูกเชิญมาเพื่อทำการตัดสินคดีให้กับสาวม้งคนหนึ่งที่หนีออกจากบ้านโดยไม่มีใครรู้ว่าหายไปไหน จึงต้องไปเชิญZaj Zeg Zaj Lag ขณะที่ท่านผู้รู้ผู้นี้เดินทางมาเพื่อตัดสินและรับฟังคำชี้แจงเรื่องการหนีให้กับผู้คนนั้น ท่าอยอยู่ทางบ้านของชาวบ้านผู้หนึ่ง ท่านจึงหยิบติดมามือมาด้วย เมือ่ท่านดูเหมือนจะรู้เรื่องราวทุกข์สุขของผู้คนไปหมด มาถึงก็ขี้แจงเลยว่าหญิงสาวผู้นี้ควรแก่วัยในการแต่งงงานแล้ว เค้าจึงได้ไปออกไปแต่งงานกับคนที่เขารักแล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง เมื่อถึงเวลาเราก็ควรปล่อยให้เขาไปสร้างครอบครัวของเขาต่อไป

นับจากนั้นมาเพื่อเป็นการไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดกันอีก ม้งเราเวลามีพิธีแต่งงานกัน จึงต้องมีคนหนึ่งที่ถือร่มมาด้วย ซึ่งทำหน้าที่เหมือนกับเจ้าฟ้าแดนมังกรที่มาชี้แจงเรื่องราวของการแต่งงานขแงหญิงสาวให้พ่อแม่ของหญิงนั้นไม่ต้องเป็นห่วงว่าหายไปไหน
อย่าสับสนกับฝนตกแดดร้อนนะ ม้งจีงมีร่มคันนี้มาเป็นสัญลักษณ์ของการแต่งงานนะจ้า ฉะนั้นเมื่อไหร่ก็ตามที่ท่านเห็นคนๆหนึ่งถือร่มมาพร้อมกับขบวนการแต่งตัวสวยๆเป็นกลุ่ม พึ่งคิดเลยว่าต้องมีพิธีการแต่งงานเกิดขึ้นในหมู่บ้านของท่าน เราจะรู้ทันที่ว่าต้องมีงานแต่งงานแน่ที่ไหนสักแห่ง... สงสัยบ้านฉันหรือเปล่าเน้อ?

๓.ฝิ่นกับม้ง

poppy หรือฝิ่นได้ถูกนำเข้ามาในจีนโดยชาวอาหรับเมื่อนทศตวรรษที่๘ และต่อมาเพราะม้งถูกจีนแบ่งพรรคแบ่งพวกให้ไปอยู่บนเขา้ ได้รับอิทธิพลการปลูกของอาหรับและคนจีนในสมัยนั้นมาก่อน คือมีการทำปลูก ขายกันอย่างกว้างขว้าง ฝิ่นเป็นเหมือนเงินตราที่ใช้แลกซื้อกันและกันในยุคสมันนั้น
ต่อมาทศตวรรษที่๑๘ บริษัทEast Indian company ของอังกฤษที่มาแสวงหาผลประโยชน์ อังกฤษนำมาซึ่งการปลูกฝิ่นในจีน ภายหลังก็ทั้งฝรั่งเศส อังกฤษร่วมกันรับซื้อฝิ่นการอย่างไม่ผิดกฏหมาย อีกทั้งไทยที่เพิ่งหยุดการซื้อขายฝิ่นอย่างไม่ผิดกฎหมาย(เมื่อหลังสงครามเวียดนามเองที่มีการประกาศการซื้อขายฝิ่นอย่างผิดกฎหมาย )ม้งเนื่องจากซ่อนตัวเอาชีวิตอยู่บนที่สูงมาโดยตลอดนับจากจากสงครามจีน เมื่อฝิ่นไดู้นำมาเสนอให้ม้ง ม้งบ้านอยู่เขาจึงต้องปลูกตามภูเขา สุดท้ายทำให้ม้งค้นพบว่า ฝิ่นปลูกได้ดีในพื้นที่สูง คนอังกฤษฝรั่งเศลจึงชอบฝิ่นม้งมากกว่าฝิ่นจีนที่ปลูกตามที่ราบ แค่ทฤษฎีนี้เองแหละที่ม้งค้นพบ ปลายพู่กันของจีนก็ปัดหางในประวัติศาสตร์จีนเลยว่า ม้งเราปลูก เสพ ค้าฝิ่น แต่จริงๆแล้วอย่างที่กล่าวออกไปข้างต้นว่า ตอนนี้ทุกที่ทุกกลุ่มชนในจีนและนอกประเทศล้วนปลูกกันเป็นพืชเศรษฐกิจ ยอมรับว่าฝิ่นเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ตอนนี้เขาคนอื่นเลิก มีกม.ออกมาห้ามแล้ว เราต้องก็เลิกแล้วอ่ะนะ มีบ้างที่ปลูกไว้ชมเชยความงามของดกอฝิ่นตามสถานที่ท่องเที่ยวของม้ง ดูเหมือนฉันไม่ค่อยชอบเลยที่ปลูกอย่างนั้น เราผ่านมาแล้วตั้งกี่รุ่นแล้ว แต่ว่าทำไมชื่อนี้ยังโด่งดังจนมีผลต่อม้งปัจจุบัน??????

๔.ทำไม่ม้งถึงถูกเรียกว่า แม้ว?

คำถามนี้มาถามเยอะ ข้าพเจ้าก็ถามตัวเองอยู่บ่อยครั้ง
สุดท้ายก็ได้คำตอบมาว่า "อันนี้ต้องกล้าที่จะถามคนเรียกนะ!!!"

ยังมีเรื่องราวของม้งที่น่าเรียนรู้อีกมากมายนะที่ม้งๆและไทยๆอย่างเราไม่รู้จักม้งกัน
ข้าพเจ้าในฐานะที่เป็นเด็กสาวม้งคนหนึ่งก็อยากจะเสนอเรื่องราวที่ถูกต้องของม้งให้ท่านได้เข้าใจเราอย่างแท้จริง
นับว่าในส่วนของข้อมูลที่เป็นภาษาไทยยังไม่มีให้เห็นเกี่ยวกับข้อมูลที่ถูกต้องของม้งมากนัก ข้าพเจ้าจึงอยากแนะนำให้ท่านศึกษาค้นคว้าในวงการที่นอกเหนือไปจากภาษาไทยด้วย

สำหรับเรื่องราวต่างๆที่เสนอไปนั้นก็ได้ข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าโดยส่วนใหญ่จากงานเขียนของผู้ี่ค้นคว้าเรื่องม้งทั้งผู้รู้ม้งและผู้รู้ฝรั่ง หากมีโอกาสข้าพเจ้้าจะนำท่านมารู้จักกับเรามากขึ้นกว่านี้ ยังมีอีกมากมายเลย เช่น

เหตุผลด้วยอะไรทำไมหญิงถึงต้องมาอยู่บ้านของชายเวลาแต่งงาน? ทำไมหญิงที่แต่งงานแล้วทำไมถึงยังใช้นามสกุลของฝ่ายพ่อ-แม่ผู้ให้กำเนิด? แล้วเมือ่ไหร่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวฝ่ายชายเสียที?

ทำไมม้งถึงคิดว่าทำไมการไม่แต่งงานถือเป็นสิ่งที่ไม่ดีต่อวงศ์ตระกูล?

ทำไมม้งถึงคิดว่าหากหญิงม้งเสียชีวิตหมด ชาติพันธุ์ม้งจะไม่วันหาย แต่หากชายม้งตายหมด ชาติพันธุ์ม้งหายแน่

ทำไมเด็กม้งเพิ่งกำเนิดต้องใส่หมวก โดยเฉพาะหมวกที่มีสีสันลายต่างๆประดับอย่างสวยงาม

และสุดท้ายข้าพเจ้าอยากให้ท่านช่วยหันไปคิดหน่อยคือ....ทำไมหญิงม้งโดยธรรมชาติแล้วจะเป็นคนเงียบ โดยเฉาพะเมือ่แต่งงาน ไปเป็นภรรยาคนอื่น ทั้งๆที่เจ็บปวด ควรจะพูดจะโต้กับสามี แต่กลับเงียบเฉยๆ ต่างกับผู้ชายที่มีอิสระเสรีที่จะพูดเสมอ....ทำไมเล่า

ฯลฯ ไม่นานเกินรอ เดี่ยวเรามาดูกันวันหลังที่เราสอบสร็จนะคะ

ขอบคุณมากนะคะ มีความสุขและมีความทุกข์นะ ชีวิตจะได้มีเท่าๆกัน

Being Hmong and love Hmong Always.

ปีใหม่ม้งนะวันนี้ Hmong NEw Year Eve!

No comments:

My Friends' Blogs

India and I

  • There are alots of things which waiting for us to discover. All knowledge is not around us,but inside. It is depended upon our ability to realise and pick it up. The apple falls from the tree,and if Newton failed to learn from it,then the law of gravitation would have not been discovered!!!
  • India is the country of contrast. You often see someting beyound your expectation.Yet,and I found that there is a tool similar to Hmong's ones expecially the stick used for balancing the two baskets for carrying water. I observed that their's one is like ours only. In Hmong language we can read it phonetically as " / dΛ ŋ/ ". This attracts me to look forward for the connection.
  • India has also have a interesting story "Why corps in the filed do not come home themselves like in the past?" I have heard this story when I was a child. Thus when I came across this Indian legend ,it reminds me of the Hmong version. If you are interested you can check it out form my page in Thai text,otherwise you can surf it. This story creates another couriosity in me. I want to find out if we had been to India before we reached in China. Because the ICE AGE or the Peleolithic Age or The Earliest traces of human existance was in India.
  • India is where we Hmongs think that there are also Hmongs live in. But I have experienced that there is not Hmong Indian. Yet,there is a gruop of people who call themselves as "Mizo"(with the similarity of the Hmong's names given by the Han, i.e. Miao zu,Meo or even Mizo ) .But as far as I have learnt form my Mizo friends in college,our language is competely different to one another.Moreover, our dress also is different. However there are many Hmong researchers suggested me that there are Hmongs living in India,and yes, there are Hmongs living here, but only living for studying.
  • I was in debt to India. She educates,guides and teaches me how to be a great survior.
  • เป็นกำลังใจให้ทุกคนๆเดินออกมาพร้อมความสำเร็จนะ
  • ใครเรียนอยู่อินเดียบ้าง..ขอมือหน่อย